วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อวตาร จางเจียเจี้ย




    จางเจียเจี้ย ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศจีนอยู่ในมณฑลหูหนานได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1992และได้รับการกล่าวขวัญถึงความงดงามของทิวเขากว่าว 3,000 ลูก สายน้ำที่งดงามอีกมากมาย มีคนเคยบอกว่าอยากเห็นเขาแปลกๆๆให้มาที่จางเจียเจี้ย ดิฉันก็ได้มาที่จางเจียเจี้ยตามคำบอกเล่า  พอมาถึงดิฉันจะต้องซื้อบัตรผ่านประตูคนละ 248 หยวน ต้องเข้าแถวซื้อตั๋วกันยาวเหยียดมาก และต้องเข้าแถวเพื่อที่จะรอขึ้นรถไปยังจุดต่างๆภายในบริเวณอุทยานจางเจียเจี้ย เป็นการท่องเที่ยวที่มีกฎระเบียบมาก ทุกอย่างจะต้องเข้าแถวรอ วันที่ดิฉันไปเที่ยวที่จางเจียเจี้ย เป็นวันที่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ดิฉันก็เข้าแถวเพื่อที่จะไปท่องเที่ยวที่สำคัญของอุทยานจางเจียเจี้ย ได้แก่ ภาพวาดสิบลี้  เขาหยวนเจียเจี้ย  
หวงสือจ้าย สะพานใต้หล้าอันดับหนึ่ง  สวนนายพลเฮ่อหลง  ทะเลสาบเป่าเฟิง  ภูเขามังกรเหลือง เป็นต้นและในแต่สถานที่ดิฉันต้องเข้าแถวรอขึ้นกระเช้า เพื่อให้ได้ชมความงดงามของขุนเขาอุทยานจางเจียเจี้ยแห่งนี้ด้วยความอดทน บางแห่งดิฉันต้องรอเป็นชั่วโมง  
    จุดแรกที่ดิฉันจะได้ไปชมและได้สัมผัสจะต้องนั่งรถรางในการชมทิวทัศน์  ขุนเขาอันยิ่งใหญ่และกว้างใหญ่พอสมควร ซึ่งมีความสวยงามมากและมีคนจินตนาการเปรียบเสมือนภาพเขียนขนาดใหญ่หรือที่เรียกกันว่า ภาพเขียนสิบลี้   เพื่อไม่ให้เสียเวลาดิฉันเดินทางไปยัง ธารน้ำแส้ทองหรือจินเปียน  ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในอุทยานจางเจียเจี้ย โดยมีความยาวทั้งหมด 8 กิโลเมตร และมีขุนเขารูปลักษณ์ตระการตากว่า 4,000 ลูก ก้าวหนึ่งมีวิวหนึ่ง  วิวหนึ่งมีภาพหนึ่ง เป็นภาพที่ไม่ซ้ำกันเลยอ่ะ  ทำให้ดิฉันเพลิดเพลินมากๆๆ ดิฉันเดินไปตามริม ธารน้ำแส้ทอง สัมผัสอากาศเย็นสบายสดชื่นมาก มันทำให้ดิฉันรู้สึกกระปี้กระเปร่าขึ้นมา "ธารน้ำแส้ทองมีภูหินสูงจากพื้นกว่า 250 เมตร  รูปลักษณ์ของหินผาลูกนี้เหมือนแส้ซึ้งเป็นอาวุธโบราณชนิดหนึ่ง จึงได้ชื่อว่า หินผาแส้ทอง เนื่องจากมีซิลิกอนไดอ็อกไซด์ ผสมอยู่ในเนื้อหิน เมื่อแสงแดดสาดส่องจะมีแสงสะท้อนเป็นสีทอง"  ขอบอกว่าสวยมากๆๆๆ  หุบเขาสองฝั่งยืนคุมเชิงกันงามแปลกตายิ่ง  ผาสีแดง กับต้นไม้เขียวขจีทอดเงากลับหัวอยู่ในน้ำ ขณะที่ดิฉันเดินตามทางเดินเล็กๆที่อยู่บริเวณสองข้างธารน้ำ ให้ควาเย็นสบายซึมซาบเข้าในหัวใจตลอดการเหยียบย่างไปบนสะพานไม้ บันไดหิน ชมปลาหลากสีเล่นน้ำ เพลินมากๆ นอกจากภูเขา สายน้ำและพันธุ์สัตว์แล้ว ถ้ำในจางเจียเจี้ยมีจำนวนมากและขนาดใหญ่ ต่ามีเอกลักษณ์และชื่อเรียกต่างกัน เช่น ถ้ำหวงหลงหรือถ้ำมังกรเหลือง ถ้ำกวนอิม ถ้ำเสี่ยงสุ่ย เป็นต้น  ถ้ำหวงหลงหรือถ้ำมังกรเหลืองในหุบเขาสั่วซีมีความยาว 7.5 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็น 4 ชั้น ภายในถ้ำมีอ่างเก็บน้ำ แห่งหนึ่ง ธารน้ำสองสาย น้ำตกสามแห่ง สระน้ำ 4 แห่ง ห้องโถง 13 แห่ง และมีระเบียง 96 สาย   อะไรจะเยอะขนาดนี้ ดิฉันเข้าไปไม่หมดหรอกค่ะเพราะดิฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่มันสวยมากๆๆๆ  และดิฉันก็ไปต่อที่ เทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์ เหตุที่เรียกว่าประตูสวรรค์เพราะว่าภูเขาเกิดปริแตกจนกลายเป็นช่องประตูขึ้นเองโดยธรรมชาติ ช่องประตูนี้สูง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 60 เมตร ดิฉันตั้งใจจะขึ้นไปถึงยอดเขาโดยการนั่งกระเช้ามีความยาวถึง 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที ขณะนั่งกระเช้าดิฉันได้สัมผัสความงดงามของภูเขานับร้อยยอดที่สูงเสียดฟ้าและชมเส้นทางขึ้นเขาที่มีโค้งถึง 99 โค้ง ดิฉันตื่นเต้นมากๆๆ และดิฉันได้เห็นช่องเขาประตูสวรรค์และวิวทิวทัศน์ที่สวยดั่งสวรรค์จากช่องเขานี้เลยค่ะทำให้ดิฉันต้องยกกล้องเก็บภาพประทับใจไว้เป็นที่ระลึก แหล่งที่พลาดไม่ได้เละค่ะ  ภุเขาหนันเทียนอีจู้ หรือ เสาหินแห่งฟ้าแดนใต้  ภูเขาลูกนี้มีรูปโฉมเหมือนเสาขนาดมหึมา ที่สูงตระง่านเหนือระดับนำ้ทะเล 1,074 เมตร  ยอดเขาปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวขจี ทิวทัศน์สวยประหลาดที่บริเวณภูเขาที่มีรูปทรงอัศจรรย์นี้ซึ่งปรากฎเป็นฉากในภาพยนต์เรื่องอวตารนี้เองค่ะ ชอบมากอ่ะ เคยเห็นในภาพยนต์อวตาร พอมาเห็นของจริงสวยมาก ประทับใจที่สุดที่ได้มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย










ขอบคุณสำหรับข้อมูลและภาพสวยๆๆ
http://www.holidaythai.com    
http://travel.thaiza.com/http
www.extraholidaysthailand.com