
หวงหลงสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งปี ยกเว้นฤดูหนาวที่หิมะลงจัด อุทยานแห่งชาตินี้ก็จะปิด ช่วงที่จะไปแล้วสวยที่สุด จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณเดือน ตุลาคม ซึ่งค่าท่องเที่ยวจะแพงมากถึงจะแพงพวกเราก็จะไปเพราะอยากไปเห็นความงามของหวงหลง รถพาเรามาถึงปากทางเข้าอุทยานหวงหลง คนขับรถทำหน้าที่รวบรวมเงินจากเราไปซื้อบัตรผ่านประตู (200 หยวน)และตั๋วเคเบิ้ลคาร์ (80 หยวน - ตามความสมัครใจ) ซึ่งไม่มีใครในรถเลือกที่จะเดินไต่ความสูงจาก 3,100 เมตร ไปยังสุดชมวิวสูงสุด 3,600 เมตรกับระยะทางยาว 3.6 กิโลเมตร ซึ่งการเดินบนพื้นราบก็เหนื่อยแล้ว พวกเราเลือกที่จะขึ้นเคเบิ้ลคาร์แล้วเดินตามไหล่เขาไปยังจุดชมวิวด้านบนแล้วค่อยเดินลงมายังปากทางเข้า แล้วเราออกสตาร์ทจากสถานีเคเบิ้ลคาร์พร้อมผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ก็เริ่มถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆเพราะความเพลิดเพลินกับธรรมชาติสองข้างทาง ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มอสที่ขึ้นตามพื้นดิน พร้อมแสงแดดรำไรที่ส่องรอดพุ่มไม้มากระทบพื้น ระว่างทางมีจุดชมวิวสระน้ำ สีฟ้าอมเขียวในแอ่งหินปูนที่เขาว่าเมื่อมองจากด้านบนจะเห็นคล้ายเกร็ดมังกรที่ทอดตัวไปตามหุบเขา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "หวงหลง" ซึ่งแปลตรงตัวว่า "มังกรเหลือง" เส้นทางสู่หวงหลง ค่อยๆไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆ จากถนนราดยางอย่าง) ที่บรรยากาศข้างทางมีปุยหิมะปกคลุมบางๆ ก็หนาขึ้นเรื่อยๆจนถนนที่รถขับไปปกคลุมด้วยน้ำแข็ง คนขับรถขับอย่างใจเย็นไม่น่าหวาดเสียวแต่พวกเรากลัวจริงๆว่ารถจะพลัดตกหน้าผา แต่เป็นบรรยากาศที่สวยมาก มีหิมะตลอดเส้นทางขาวไปหมดเลยรถวิ่งผ่านจุดสูงสุดของ
เส้นทางแล้วค่อยๆวิ่งลงเขามาเรื่อยๆ บางช่วงของถนนเห็นฟ้าเริ่มเปิดบ้างเกิดเป็นวิวสวยมหัศจรรย์เลยค่ะ ราวกับเราได้อยู่บนสวรรค์จริงๆทั้งที่เรายังไม่ถึงหวงหลงจริงๆ ทางที่จะเดินไปที่ทางเมนของหวงหลง เราจะต้องเดินประมาณสองกิโลเมตรได้ แต่ดีนะที่ยังเป็นทางราบทางหลักนั่นเป็นทั้งราบและขั้นบันไดฉะนั้น ต้องเดินอย่างเดียว ใช้รถเข็นก็ไม่ได้และที่สำคัญนะค่ะห้ามป่วยเป็นอะไรขึ้นมาตรงนั้น เพราะจะลำบากมาก เรามาถึงที่นี้ แน่นอน คือเราจะเดินไปเรื่อยๆๆมันเป็นอะไรที่เหนื่อยเหมือนกัน หัวใจเราเต้นแรง แต่ก็สนุกดีทางเมนก็จะมีม้านั่งอยู่ตลอดทางและตลอดทางขึ้นก็จะมีคนนั่งพักเหนื่อยที่ม้านั่งทุกตัวแต่เราไม่นั่งพักเพราะเรายังเดินไหวอยู่ค่ะ เราเดินชมธรรมชาติความสวยงามของหวงหลงไปเรื่อยๆๆ นอกจากน้ำใสๆ มีตั้งแต่ไม่มีสีจนไปถึงน้ำเงินและสีที่เกิดจากสิ่งที่อยู่ในสระแล้วรูปร่างของสระก็ยังอะเมซิ่งอีกด้วย ธรรมชาตินี้แปลกจริงๆนะและที่แห่งนี้อยู่ห่างจากจิ่วไจ้โกวไม่มากแต่มีความสวยงามที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยระหว่างเดินก็จะเห็นคนสูดอ๊อกซิเจนกระป๋องกันทั่วเลย บางคนไม่ได้สูดแต่เลือดกำเดาออกแทน โชคดีนะที่ตัวเองไม่เป็นอะไรตอนอยู่ในหวงหลง จุดที่สวยที่สุด คือ บึงห้าสี อยู่บนสุด สรุปแล้ว ประทับใจในความงามของหวงหลงไม่แพ้จิ่วไจ้โกวเลยค่ะ
ขอขอบคุณภาพสวยๆๆๆๆ
walkridefly.wordpress / baddoguy.multiply