วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว

                                                  จิ่วจ้ายโกว

อุทยานจิ่วจ้ายโกว หรือดินแดนแห่งเทพนิยาย จิ่วจ้ายโกวมีชื่อเสียงด้านความงามแห่งสีสันที่แปลกเปลี่ยน ไม่รู้จบ ทะเลสาบผุดขึ้นท่ามกลางหมู่แมกไม้เขียวขจี สายน้ำท้องน้ำในทะเลสาบสีฟ้าที่ดูสงบนิ่งและใสดุจกระจก ยอดเขาประกายหิมะ เงาของไม้หลากสีสันต้องแสงแดดสะท้อนลงบนผิวน้ำใสราวกระจกของทะเลสาบ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอันงดงามที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลผลิ ร้อน ร่วง หนาว ไม่ว่ายามสงัดฟ้าใส หรือฝน ยามเช้าหรือยามเย็น หิมะโปรยหรือยามฝนพรำ สีของน้ำในทะเลสาบก็จะแปรเปลี่ยนไป บ้างเขียวครึ้ม ผสมน้ำเงินเข้ม บ้างฟ้าเขียวสดใส อีกทั้งสาหร่ายและพืชพรรณใต้น้ำที่สะท้อนเงาแดดต่างประชันขันแข่งกันให้สีเขียวมรกต เหลืองบุษราคัม ชมพูจนถึงแดงอ่อน ราวกับเพชรพลอยที่ส่องแสงสะท้อนบาดตายามฤดูใบไม้ผลิ แมกไม้ผลิดอกใบ ทั้งสีแดง เหลือง ม่วง ขาว ที่กำลังผลิดอกออกใบสะพรั่งในฤดูกาลนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ป่าทั้งผืนจะกลายเป็นสีเขียวไล่ระดับตั้งแต่เขียวอ่อน เขียวสดใส เขียวเจิดจ้า เขียวเข้ม สะท้อนถึงความเข้มข้นของชีวิตอันอุดมในผืนป่าแห่งนี้ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบทะเลสาบจะทยอยผลัดใบเปลี่ยนสีร่วงลงสู่ทะเลสาบ สร้างสีสันให้กับโลกใต้น้ำ ป่าผลัดใบเป็นสีสันฉูดฉาด บ้างเป็นสีส้มเข้ม เหลืองอ่อน แดงชาด แดงเข้ม จนถึงแดงคล้ำ ใบไม้ที่ร่วงหล่น ทำให้กลายเป็นสีแดงฉาน พอย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ทุกหนแห่งถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาดตา น้ำตกที่แข็งตัว เป็นเส้นสาย หยดย้อยลงมาราวกับม่านสีเงิน ส่องประกายวิบวับในแสงแดดอ่อน ผืนป่าถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวบางเบา ดูราวกับภาพในฝัน สายธารน้ำสีเงินผนึกตัวเป็นแผ่นน้ำแข็ง ราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดี ที่ประดับตกแต่งด้วยเพชรพลอยสีสดใสอยู่ จิ่วจ้ายโกวสร้างขึ้นด้วยมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ขุนเขาเขียวขจี สายน้ำใสสะอาดไหลริน ขุนเขาโอบล้อมสายน้ำ แมกไม้สายธารแนบชิด นับเป็นทิวทัศน์อันสดชื่นกระจ่างตาภายใต้ของธรรมชาติ  เป็นอะไรที่น่าทึ่งและน่าสนใจที่แปลกประหลาดของจิ่วจ้ายโกว ทั้งนี้จิ่วจ้ายโกว ยังมี  ทะเลสาบ 5 สี ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไม่ถึงเรียกว่าทะเลสาบ 5 สี พอได้มาเห็นรูปภาพทะเลสาบ5 สี ที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาหรือฤดูกาล โดยมีทั้งสีฟ้า เขียว เหลือง ขาว และม่วงแดง อันเกิดจากบรรดาสาหร่ายขนาดจิ๋วชนิดเฉพาะที่เติบโตอยู่ในน้ำซึ่งมีแร่ธาตุละลายปนอยู่ ยามแสงตกกระทบจึงสะท้อนแสงสีน้ำเงินออกมาให้เห็น

 จิ่วจ้ายโกวยังมีทะเลสาบอื่นๆอีก
ทะเลสาบแพนด้า ที่เรียกว่าทะเลสาบแพนด้าก็เพราะว่า ตรงทะเลสาบนี้มีไผ่ลูกสร ที่เป็นอาหารของหมีแพนด้าขึ้นอยู่มากมาย และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี้ก็เคยพบเห็นแพนด้าออกมาหาอาหารที่นี้บ่อยๆ น้ำที่เห็นในทะเลสาบเป็นสีน้ำเงินเข้ม สีครามสวยงามมาก
ทะเลสาบนกยูง  ลวดลายของสีน้ำที่ปรากฏเหมือนนกยูงที่กำลังโชว์ความสวยงามของหางที่มีสีสันแตกต่างกันไป สีของน้ำที่เป็นสีครามอมน้ำเงินเข้มในบริเวณที่น้ำลึก และมีสีเขียว ในบริเวณน้ำตื่น ตกแต่งด้วยสีของกิ่งไม้ และขอนไม้ที่จมอยู่ใต้น้ำ สีสันของน้ำถูกตกแต่งด้วยเงาสะท้อนของท้องฟ้า และภูเขาที่อยู่ราบล้อมทะเลสาบ ทะเลสาบกว้างใหญ่ กับความสวยงามที่เหนือคำบรรยาย
ทะเลสาบแรด และทะเลสาบเสือ สองทะเลสาบนี้อยู่ติดกัน ทะเลสาบ ตรงนี้น้ำในทะเลสาบนิ่งมาก มองเห็นเงาสะท้อนของภูเขา สวยงามมากจริงๆ ที่น่าสนประทับใจคือ ต้นซากุระสีชมพู อยู่เคียงข้างธารน้ำตก
ทะเลสาบมังกรคู่ ทะเลสาบมังกรคู่วางตัวอยู่ใกล้กับทะเลสาบประกายไฟ มีหงษ์และเป็ดแมนดารินมาเล่นน้ำที่ทะเลสาบนี้ชื่อของทะเลสาบนี้มาจากแนวหินปูนก้นทะเลสาบที่มีรูปร่างเหมือนมังกรสองตัวตำนานโบราณของชาวธิเบต ในอดีตมีมังกรร้ายสองตัวเข้ามาทำร้ายชาวธิเบตในดินแดนจิ่วจ้ายโกวนี้ โดยพ่น  ลูกเห็บและพายุหิมะมายังหมู่บ้านในที่สุดเทพเจ้ากีซา ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวธิเบตได้มาปราบมังกรทั้งสองตัวนี้ และล่ามโซ่มังกรทั้งสองนี้ไว้ใต้ทะเลสาบ
น้ำตกนู่รื่อหลาง เป็นน้ำตกที่กว้างทีสุดในจิ่วจ้ายโกว นู่รื่อหลางเป็นภาษาธิเบตแปลว่า ยิ่งใหญ่และอัศจรรย์ ด้านบนของน้ำตกเป็นที่ราบ สายน้ำไหลลัดเลาะ ลงสู่พื้นด้านล่างเกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมน้ำตกธารไข่มุกคือตอนเช้า(ต้องมาฤดูฝน) เพราะจะได้เห็นละอองน้ำต้องประกายแสงอาทิตย์ทอเป็นสายรุ้งอันวิจิตรมี หรือถ้ามาฤดูหนาวก็จะเห็นน้ำตกกลายเป็นหิมะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติจริงๆๆ
ทะเลสาบยาว  ทะเลสาบยาว เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ทะเลสาบยาว เป็นหิมะละลายจากภูเขา มีต้นสนซีดาร์ทั่วภูเขาล้อมรอบทะเลสาบ เมื่อมองจากระยะไกลสะท้อนเป็นทิวทัศน์อันงดงามเปรียบได้กับพระราชวังหยกในชั้นฟ้าที่ด้านข้างของทะเลสาบมีต้นไม้เก่าที่เชื่อว่าเป็นเทพผู้พิทักษ์ทะเลสาบยาวในฤดูหนาวทะเลสาบจะจับตัวแข็งหนาถึง 60 เซนติเมตร
 จิ่วจ้ายโกว มีความสวยงามในแต่ละฤดูจะไม่เหมือนกัน แต่ละฤดูก็จะมีความสวยแต่ละแบบ ในฤดูหนาวธารน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง ก็สวยไปอีกแบบ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีใบไม้ของต้นไม้จะร่วมใจกันเปลี่ยนสีทำให้จิ่วจ้ายโกวมีสีสันสวยงามไปอีกแบบ
ในช่วงเดือนเมษายน จะเป็นปลายฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็น น้ำในทะเลสาบจะเหลือน้อย หิมะเริ่มละลายแล้วน้ำใส เย็นได้ใจ
ในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบาย น้ำในทะเลสาบยังคงมีน้อยอยู่เพราะยังคงมีหิมะปกคลุม ดอกไม้เริ่มผลิบานกันแล้ว
ในช่วงเดือน มิถุนายน ต้นสิงหาคม เริ่มเข้าฤดูร้อน อากาศเป็นแบบอบอุ่น ทะเลสาบเริ่มมีน้ำมากแล้วเพราะหิมะได้ละลายหมดแล้ว เริ่มเหมาะแก่การท่องเที่ยวแล้ว
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม กันยายน เริ่มต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดแล้วเพราะน้ำในทะเลสาบสมบูรณ์ที่สุด
ในช่วงเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุด และก็น้ำในทะเลสาบสวยที่สุด เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด
ในช่วงเดือนธันวาคม มีนาคม ฤดูหนาวเข้ามาเยือนแล้วมีหิมะ เหมาะสำหรับท่านที่อยากสัมผัสอากาศหนาวและหิมะ น้ำตกเริ่มมีหิมะเกาะแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่า จิ่วจ้ายโกว จะเที่ยวได้ตลอดทั้งเดือน ดูความแตกต่างของแต่ละช่วงฤดูสิว่าแตกต่างกันมากและความสวยงาม ในฤดูหนาวก้อจะเป็นสีขาว ทั้งหมด ปกคลุมด้วยหิมะ ฤดูใบไม้ผลิก็จะเขียวขจี  ส่วนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะมีสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี กระทบกับทะเลสาบทำให้เห็นเป็นสีที่สดใสหลากหลายสี


ขอขอบคุณภาพสวยๆๆๆๆๆ

http://www.tourjoins.com / http://www.pantown.com  / http://www.fwt2003.com