เมืองโบราณเฟิ่งหวง(fenghuang)
เมืองโบราณเฟิ่งหวง (fenghuang) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง มีประวัติกว่า 400 ปี เนื่องจากเขาหนานหัวที่อยู่ทางใต้ของเมืองมีรูปร่างเหมือนหงส์ จึงได้ชื่อว่า
"เฟิ่งหวง" แปลว่า
"หงส์"
ปัจจุบัน เมืองเฟิ่งหวงมีประชากรประมาณ 3 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าถู่เจียและชาวม้ง เวลาเดินอยู่ในตัวเมือง มักจะพบหญิงสาวชาวม้งหรือชาวถู่เจียในชุดชนชาติที่ประดับด้วยลายดอกไม้ เพิ่มความงดงามให้เมืองโบราณแห่งนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว เฟิ่งหวงเป็นเมืองขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เดินได้ทั่ว แบ่งเป็นเมืองเก่ากับเมืองใหม่ เมืองเก่าสร้างขึ้นตามเชิงเขาและมีลำน้ำถัวเจียงไหลผ่าน มีถนนที่ปูด้วยหินสีเขียว 20 กว่าสาย มีกำแพงเมืองโบราณตั้งอยู่ริมน้ำ มีหงเฉียวซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่มีหลังคาคลุมเชื่อมสองฟากฝั่งให้เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นของเฟิ่งหวง คือ
"เตี้ยวเจี่ยวโหล" เป็นบ้านที่ยกพื้นสูงเรียงรายกันตามริมน้ำที่ใสสะอาดจนมองเห็นทุกสรรพสิ่ง เป็นทัศนียภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมชมชอบทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยวเลยทีเชียว

เฟิ่งหวงเป็นเมืองที่กำเนิดอัจฉริยะบุรุษหลายคน นอกจากเสิ่นฉงเหวินซึ่งเป็นนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว สง ซีหลิง อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐจีน และนายหวาง หย่งยู่ว์ จิตรกรที่มีื่ชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศก็เป็นชาวเฟิ่งหวง บ้านเดิมของเสิ่นฉงเหวิน นักประพันธ์ นักประวัติศาสตร์และนักการศึกษาค้นคว้าโบราณคดีนามอุโฆษของจีน เป็นบ้านที่มีลานบ้านล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ก่อด้วยอิฐทนไฟที่มีสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่นในภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นปู่ของเสิ่นฉง เหวิน อดีตผู้บัญชาการทหารประจำมณฑลกุ้ยโจวในสมัยราชวงศ์ชิง ต่อมาจึงสร้างเป็นบ้านเรือนดังกล่าว เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว บ้านเรือนเก่าแก่ของเฟิ่งหวงจึงใช้เป็นสถานที่เปิดบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว บาร์เบียร์ และร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ บาร์เบียร์เป็นสถานที่ที่พลาดไปไม่ได้หากไปเฟิ่งหวง เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่สองข้างของลำน้ำ นั่งชมทิวทัศน์ที่สวยงามท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก มีการตกแต่งที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ไปนั่งอ่านหนังสือ จิบชา จิบเบียร์ หรือเล่นเน็ตก็ได้ พอพลบค่ำ โคมไฟสีแดงของแต่ละร้านที่อยู่สองฝากฝั่งลำน้ำก็สว่างไสว ประดับให้เมืองเก่าแก่แห่งนี้มีความสวยงามยิ่ง

บนถนนสายต่างๆของเมืองเก่า มีหญิงชราชาวม้งในชุดประจำชนชาติออกมาตั้งแผงลอยขายผ้าปักข้างๆกำแพงเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบโบราณและสดชื่น ทุกเช้าพอฟ้าสว่างขึ้น ตามขั้นบันไดลงไปถึงริมลำน้ำ มีหมอกจางๆลอยเรี่ยอยู่บนผิวน้ำ โคมไฟสีแดงที่แขวนตามร้านทั้งสองฝั่งลำน้ำพริ้วไหวไปมาเบาๆท่ามกลางสายลมที่เย็นสบาย นั่งเรือแจวชมบ้านเรือริมน้ำ ล่องตามลำน้ำถัวเจียง สนุก ตื่นเต้น และปลอดภัย ชมบ้านเรือนสองฟากฝั่งแม่น้ำ สะพานโบราณ ถนนที่ปูด้วยหินสีเขียว และ ต้นไผ่ที่สูงสะโอดสะอง รวมทั้งหญิงสาวชาวถู่เจียและชาวม้ง เมืองนี้เหมือนภาพเขียนที่สวยงามมากคะ ที่เมืองเฟิ่งหวง สิ่งที่น่าซื้อไปฝากมากน่าจะเป็นน้ำตาลขิง เพราะเมืองเฟิ่งหวงมีร้านขายน้ำตาลขิงหลายสิบเจ้า น้ำตาลขิงใช้วัตถุดิบคือน้ำตาลแดง ขิงสด งา และน้ำแร่ น้ำตาลขิงไม่เพียงแต่ทำให้กระเพาะอาหารมีความอุ่น ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ไอและขับเสมหะเท่านั้น หากยังมีรสชาติหวานกรอบอร่อยด้วย
อันว่าเมืองโบราณที่มีลมหายใจ ก็คือเป็นเมืองที่มี มีหลายร้อยปีแล้ว ปัจจุบันก็ยังมี
คนอาศัยอยู่กันไม่ขาดสาย แต่ ลมหายใจของเมืองเฟิ่งหวงค่อนข้างเป็นลมหายใจเสียงดังมากหน่อย ดังราวกับงานวัด หรือในงานคอนเสิร์ต เพราะยามกลางคืนเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเดินชมแสงไฟ หงเฉียว สะพานมีหลังคา แลนด์มาร์คของเฟิ่งหวง มีร้านขายของเรียงรายสองข้างทางตรงกลางเป็นถนนให้คนเดินข้ามฝั่ง ใครจะไปจะมา จะนัดหมายกัน ก็มักจะเริ่มที่นี่ จำชื่อไว้นะค่ะ
หงเฉียว เท่านั้น อย่าเรียกชื่อฝรั่งตามแผ่นพับว่า Rainbow Bridge เพราะไม่มีใครรู้จัก
ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆ
http://travel.thaiza.com
http://www.meetawee.com