วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวเมืองแห่งสวยงาม ซูโจว


ซูโจว


          เมืองซูโจว มีชื่อเดิมว่า "เมืองกู่ซู" เมืองซูโจวเป็นเมืองที่มีความสวยงามไม่น้อยกว่าเมืองหังโจว ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,500 ปี และได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งสาวงาม ” ซึ่งอดีตในแถบนี้ได้ชื่อว่า “เจียงหนาน” อุดมไปด้วยพืชพรรณธัญญาหารและสาวเจียงหนานที่มีความสวยงามเป็นเลิศ เป็นสถานที่ที่มีสวนคลองต่างๆมากมาย เป็นอันดับหนึ่งในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้และได้ชื่อวาเป็นเมืองแห่งสาวงามอีกทั้งเป็นเมืองที่งดงามมากจนได้รับฉายาว่า “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์” สิ่งก่อสร้างต่างๆมากมายแบบจีนในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน  เมืองซูโจว ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2540
สุดยอดสวนโบราณซูโจวที่เลื่องชื่อและเป็นมรดกโลก ได้แก่
        
  1.สวนจัวเจิ้ง เป็นสวนที่สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง รัชกาลเจิงเต๋อ ปีที่ 4 ตรงกับค.ศ.1509 มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของสวนโบราณทั้งหมดในเมืองซูโจว ถึง 51,590 ตรม. โดดเด่นในด้านภูมิทัศน์ทางน้ำซึ่งกินพื้นที่ถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด โชว์ศิลปะการไหลเวียนตามธรรมชาติ ที่เรียบง่ายแบบคลาสิคสมัยหมิง นอกจากนี้ ยังตบแต่งประดับประดาด้วยโคลงคู่และภาพวาดพู่กันจีน เนื่องจากมีศิลปินกวีแห่งเจียงหนันร่วมในการออกแบบ
          
2.สวนหลิว สร้างในสมัยราชวงศ์หมิงเช่นกัน แต่หลังสวนจัวเจิ้ง 80 กว่าปี ในรัชสมัยวั่นลี่ ปีที่ 21 (ค.ศ.1593) มีพื้นที่ 23,310 ตรม. ในอดีตมีชื่อว่า ‘สวนตะวันออก’ เป็นสวนศิลปะเจียงหนันขนานแท้ โดดเด่นด้านการจัดวางและช่องว่าง มีการโชว์ลูกเล่นของลักษณะความแตกต่างทางสถาปัตยกรรรมที่สร้างมุมมองระดับต่างๆได้อย่างงดงามลงตัว ที่มีทั้งโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบยาว-สั้น สูง-ต่ำ ใหญ่-เล็ก หรือที่นำสายตาด้วยเส้นโค้ง-ตรง หรือขยาย-ย่อสัดส่วนพื้นที่ ตลอดจนการเล่นแสงเงา มืด-สว่างตามมุมต่างๆของอาคาร เป็นต้น
         
3.สวนหวั่งซือ สร้างในสมัยซ่งใต ้(คศ.1127-1279) บูรณะใหม่ในรัชสมัยเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง (คศ.1736-1796) สวนหวั่งซือ พื้นที่ 5,400 ตรม. ขนาดเล็กเพียง 1 ใน 6 ของสวนจัวเจิ้ง เป็นสวนในที่พักอาศัยแบบคลาสิคของเจียงหนัน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ด้านตะวันออกเป็นเรือนพักอาศัย ด้านตะวันตกเป็นสวน ใจกลางมีสระน้ำขนาด 440 ตรม. พร้อมด้วยระเบียงทางเดิน เก๋งจีน ศาลาริมน้ำอยู่ภายในสวน เฟอร์นิเจอร์และโคมไฟที่ประดับภายในอาคาร ก็เป็นศิลปะยุคราชวงศ์หมิง
            
4.สวนชางลั่งถิง หรือ สวนพลับพลา เกลียวคลื่น เป็นสวนเก่าแก่ที่สุดในจำนวนสวนโบราณซูโจวทั้งหมด ชื่อของ 'ชางลั่งถิง' หรือพลับพลาเกลียวคลื่น ปรากฏขึ้นครั้งแรกในศิลาจารึกแผนที่เมืองผิงเจียง (ซูโจว ค.ศ.1229) สมัยราชวงศ์ซ่ง และยังมีบันทึกการเอ่ยชื่อ ‘พลับพลาชางลั่งถิง’ โดยกวีในสมัยเดียวกันด้วย
           
5.สวนซือจึหลิน หรือ สวนป่าสิงโต  เด่นด้านภูเขาจำลองและหินรูปสิงโต ที่มาของชื่อสวน สวนป่าซือจึหลิน มีพื้นที่ 1,152 ตรม. เป็นสวนสมัยศตวรรษที่ 14 ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของสวนแห่งนี้คือ ภูเขาหินจำลองที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ และสิ่งปลูกสร้างรอบๆทะเลสาบ รวมถึงน้ำตกและหน้าผาจำลองริมทะเลสาบ ยังมีการสร้างเขาวงกต ที่ประกอบด้วยถ้ำ ทางเดิน และปลูกต้นไซปรัสและสนโบราณ
ดิฉันจะเดินทางสู่เมืองซูโจวซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีคลองมากมาย เป็นเวนิสตะวันออกของจีน ลักษณะเมืองจะพยายามอนุรักษ์หรือไม่งั้นก็สร้างสิ่งก่อสร้างเลียนแบบของโบราณ เช่นพวกเก๋งจีน กำแพงเก่าๆ
ดิฉันแวะพักทานอาหารเที่ยงซึ่งไม่ค่อยมีอะไรอร่อยเท่าไหร่ จะออกมันๆ ซะมากสภาพบ้านเมืองที่นี่ดูเป็นธรรมชาติและเงียบสงบกว่าหังโจว นั่งรถไปก็จะเห็นคลองมากมาย คลองที่นี้ขนาดก็กว้างขวางมาก ว่ากันว่าสมัยโบราณฮ่องเต้สั่งให้คนขุดขึ้นมาเพื่อใช้ลำเลียงสินค้าไปส่งยังเมืองหลวง
ดิฉันเดินทางไปวัดซีหยวน ซึ่งรอบๆ วัดจะมีต้นแป๊ะก้วยสีเหลืองอร่าม ต้นแป๊ะก้วยจะมีสองเพศคือ ตัวผู้กับตัวเมีย ต้องปลูกไว้คู่กัน ไม่งั้นจะไม่มีลูก คนจีนไม่ค่อยรับประทานแป๊ะก้วยแต่จะส่งออกไปขายมากกว่าภายในวัดมีจุดเด่นคือ พระอรหันต์ 500 รูป ว่ากันว่าถ้าจะนับว่ามีครบต้องนับจนได้ถึง 500 จะลองนับครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้จะทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ มีการทำนายดวงชะตาด้วย ผู้ชายให้วนจากด้านซ้าย ผู้หญิงให้วนจากด้านขวา นับไปเรื่อยๆ โดยนับตามอายุบวกหนึ่ง จนถึงพระองค์ใด ให้ดูเลขกำกับ แล้วมาหยิบคำทำนาย นอกจากนั้นยังมีเจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา จี้ก้ง ทวารบาลทั้งสี่ซึ่งหน้าตาน่ากลัวมากบรรยากาศภายในวัดดูสงบร่มรื่นดี อันที่จริงเราน่าจะได้เดินดูอะไรมากกว่านี้ เพราะดูจากแผนที่แล้วเหลืออีกหลายศาลาที่ดิฉันยังไม่ได้เข้าไปเลยแต่เวลากระชั้นมาก ทำให้ดิฉันต้องออกเดินทางต่อไปสวนหลิวหยวน ซึ่งเป็นมรดกโลก และเป็นหนึ่งในสี่ของสวนสวยของเมืองจีน ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 40 ปี ภายในจัดแบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น สวนแบบต่างๆ สระน้ำ มีพันธุ์ไม้หลากหลาย จุดเด่นคือ หินสวยงามรูปหงส์ ซึ่งติดอันดับความสวยงามหนึ่งในสี่ของประเทศจีน มีหินอ่อนที่มีลายแปลกๆ ซึ่งเกิดจากธรรมชาติ มองไปเหมือนรูปวิวทิวทัศน์

ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆ
http://thai.cri.cn
http://www.tourtooktee.com